สิงห์บลู กัดจมเขี้ยว บุกอัดสิงห์แดง 2-0 รอชนผี!!

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                           28 กุมภาพันธ์ 2556

    "สิงห์บลู" เชลซี แชมป์เก่า ยังคงโชว์ความสดในฐานะ แชมป์เก่า ได้ดี หลังบุกไปเอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 2-0 เมื่อวันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา โดยนัดต่อไปต้องเจอศึกหนัก เพราะต้องไปเยือน "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

เชลซี 2-0 มิดเดิ้ลสโบรช์

           เริ่มเกมส์มา ต่างครองบอลดูเชิงกัน ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้น่าลุ้นเท่าไหร่นัก จนมาถึงนาทีที่ 26 เป็นสิงห์อีสานที่ได้เสียวก่อนเมื่อนิคกี้ เบลีย์บรรจงโยนบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษ และเป็น สก็อตต์แม็คโดนัลด์โหม่งย้อนศรถากเสาแรกออกไป

     นาทีที่ 36 อังเดร บีเคย์กองหลังมิดเดิ้ลสโบรช์มีอาการบาดเจ็บรบกวน จึงต้องเดินออกไปโดยมีเซ็บ ไฮน์สถูกส่งลงเล่นแทน

เชลซี 2-0 มิดเดิ้ลสโบรช์

      และนาทีที่ 38 เจ้าบ้านได้เสียวอีกเมื่อมุสตาฟา คาราโยลลากบอลขึ้นทางซ้ายแล้วกระชากตัดเข้ามากดแถวริมเขตโทษถูกปีเตอร์ เช็กรับหลุดมือทำให้เทอร์รี่ต้องรีบตามไปเคลียร์ทิ้งก่อนโดนเก็บตก จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

      ครึ่งหลังสิงห์บลู กลับมาตั้ง ต้นบุกกันใหม่ และนาทีที่ 51 เปาโล แฟร์ไรร่าก็ควบบอลขึ้นกราบขวาสวยก่อนตักจากเส้นหลังเข้าเขตโทษแล้วยอสซี่ เบนายูนป้ายคืนให้รามิเรสซัดจาก 23 หลาแฉลบแผ่นหลังของ เฟร์นานโด ตอร์เรสเข้าปะทะตาข่าย จึงเป็นอันว่าทีมเยือนนำหน้า 1-0

       เหมือนขวัญเจ้าบ้านจะเสีย หลังการทำประตูของ เชลซี ส่งผลให้การเล่นของเชลซีเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และเกือบได้ประตูอีกในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่เทอร์รี่เปิดบอลยาวจากกลางสนามฝั่งซ้ายให้ตอร์เรสสปีดไปดึงลง พื้นคนเดียวโดยไม่ล้ำหน้า แต่ดาวยิงสเปนตะบันจาก 18 หลาข้ามคานนิดเดียวก่อนที่เบนเตซจะเปลี่ยนเบนายูนออกให้เอแด็น อาซาร์ลงบู๊ในนาทีต่อมา

เชลซี 2-0 มิดเดิ้ลสโบรช์

      จนมาถึงนาทีที่ 63 สิงห์บลู ก็ฝังเขี้ยวใส่สิงห์แดงได้อีกจากจังหวะที่อาซาร์ทำชิ่ง กับออสการ์จนหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนที่สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมจะตบบอล มากลางประตูให้วิคเตอร์ โมเสสเข้าฮอสหกหลาไม่พลาดพา เชลซี นำ 2-0

      ปิดเกมได้สำเร็จจวบจนครบ 90 นาทีจึงกำราบเดอะ โบโร่ 2-0 เข้ารอบแปดทีมไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.นี้

ราฟาเร้า "สิงห์บลู" สู้เพื่อท็อปโฟร์ !

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                           26 กุมภาพันธ์ 2556

    ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ชั่วคราวทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ออกมาปลุกใจลูกทีมให้พยายามฮึดสู้เพื่อจบฤดูกาลในอันดับท็อปโฟร์ ถึงแม้จะเพิ่งพ่าย"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ไปในเกมพรีเมียร์ลีก นัดล่าสุด...

ราฟาเอล เบนิเตช กุนซือ เชลซี

      เกมนัดนี้ เชลซี มีโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากลูกจุดโทษของ แฟรงค์ แลมพาร์ด แต่ก็ถูก โจ ฮาร์ท รับไว้ได้ก่อนที่ ยาย่า ตูเร และ คาร์ลอส เตเบซ จะยิงช่วยทีมเจ้าถิ่นคว้าชัยทำให้สถานการณ์ของ เชลซี ตอนนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะหลุดท็อปโฟร์เนื่องจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ อาร์เซนอล มีคะแนนตามหลังอยู่แค่เพียง 1 ถึง 2 แต้มเท่านั้น ขณะที่โปรแกรมในพรีเมียร์ลีกก็เหลืออีกเพียง 11 นัด

     หลังจบการแข่งขัน เทรนเนอร์ชาวสแปนิชก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "อย่างที่บอกก่อนการแข่งขัน เราจะสู้จนถึงที่สุด ถึงไม่ชนะสถานการณ์ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเราต้องก้าวต่อไปจนจบฤดูกาล"

     ขณะเดียวกัน ราฟา ก็ยอมรับว่าการที่ แลมพาร์ด ยิงจุดโทษไม่เข้าใน น.50 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

     "จุดโทษนั้นมันสำคัญมาก เพราะเกมนี้เราก็เล่นกันได้ไม่ค่อยดีและจุดโทษนั้นมันก็ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน มันค่อนข้างแย่นะ คนยิงก็ยิงได้ดีแล้วแต่คนเซฟทำได้ดีกว่าและหลังจากนั้น 10 นาทีเราก็โดนยิง ดังนั้นเราจึงเจอกับความเสี่ยงและมันก็ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดี" เบนิเตซ กล่าว

เผยจากใจ.. ลงเล่นเพื่อแชมป์ ยูโรป้า !!!

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                           25 กุมภาพันธ์ 2556

     จอห์น เทอร์รี่ ย้ำ เชลซี จะเดินหน้าต่อไปคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก มาครองให้ได้ หลังจากผ่านเข้ารอบอย่างหืดจับนิดๆ ด้วยประตูชัยเหนือ สปาร์ต้า ปรากในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

จอห์น เทอร์รี้ กัปตัน เชลซี

     เชลซี ซึ่งลงสนามในบ้านตัวเองน่าจะผ่านเกมนี้ไปได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะบุกไปเอาชนะ สปาร์ต้า ปราก มาได้ก่อน 1-0 ในเกมแรก ทว่ากลับพลาดท่าโดนทีมเยือนทำประตูขึ้นนำจนทำท่าจะต้องยืดเยื้อไปเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ ยังดีที่ เอแด็ง อาซาร์ มายิงตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 รวมสองนัด "สิงโตน้ำเงินคราม" ชนะ 2-1 ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโรป้า ลีก ในที่สุด

     หลังจบเกม กัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่ กล่าวว่า "เราลงเล่นรายการนี้เพื่อจะคว้าแชมป์ และการผ่านเข้ารอบคือสิ่งที่เราสมควรได้รับมากที่สุดแล้ว เราผิดหวังกันอย่างมากที่ตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก และได้แต่นั่งดูเกมในคืนวันอังคารและวันพุธแบบเซ็งๆ แต่การลงเล่นในรายการนี้ก็สร้างแรงกกระตุ้นให้เรา"

     "คืนนี้มันไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเรา แต่เราได้เข้ารอบแล้วซึ่งเราก็พอใจ พวกคุณคงคิดว่าคืนนี้มันอาจจะไม่ใช่คืนของพวกเราซะแล้ว เราใช้เวลาจนถึงนาทีสุดท้ายกว่าจะปิดเกมได้ และบางทีนี่น่าจะเป็นการทำอย่างดีที่สุดแล้ว มันเป็นเรื่องของความเด็ดขาดและเราก็แสดงให้เห็นได้ในนาทีสุดท้าย เราสู้ สู้ และสู้ ไม่ถอย"

อ่าน ผลบอลระหว่าง เชลซี-สปาร์ต้า

"สิงห์หงาย" พลาดนำ โดนเรือใบลงโทษ 2-0 !!!

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                               24 กุมภาพันธ์ 2556

     "สิงห์บลู" บุกไปพ่ายถึงบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยพลาดโอกาสขึ้นนำจากจุดโทษ เลยต้องสังเวยคืน 2 ลูกรวดจาก ยาย่า ตูเร่ และ คาร์ลอส เตเวซ ส่งผลให้แพ้ไป 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

     เริ่มเกมมา 9 นาที ทั้งสองทีมยังไม่มีจังหวะจะแจ้งทำประตูกันเท่าไหร่ มีใกล้เคียงสุด เป็นของ แมนฯซิตี้ เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ พาบอลลุยไปถึงริมเส้นหลังประตู ก่อนเปิดเข้ากลาง หวังให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ เข้าชาร์จ แต่ กุน โดนชนร่วงไปก่อน บอลจึงเข้ามือ ปีเตอร์ เช็ก

แฟร้ง แลมพาร์ด จาก เซลซี

     นาทีที่15 แมนฯซิตี้ ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เปิดโดย ดาบิด ซิลบา ไปที่หน้าประตู มาติย่า นาสตาซิช ได้วิ่งมาโฉบโหม่งคนเดียว แต่บอลกระดอนพื้น และไม่ห่างตัว ปีเตอร์ เช็ก เท่าไหร่ ลูกโหม่งลูกนี้จึงกิน ปีเตอร์ เช็ก ไม่ลง

     นาทีที่27 เชลซี ได้โอกาสลุ้นยิงประตูบ้าง จากลูกฟรีคิกระยะกว่า35หลาของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แต่บอลโด่งออกหลังไปอย่างไม่มีลุ้น

    นาทีที่36 ทีมสิงห์บลู รับใบเหลืองไปก่อน เมื่อ รามิเรส ไปเตะตัดขาจังหวะเลี้ยงลุยของ ยาย่า ตูเร่ จึงไม่รอด รับใบเหลืองไปคนแรกของเกม

     3 นาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มีลุ้นอีกครั้ง เมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ เล่นชิ่งกับ เจมส์ มิลเนอร์ ก่อนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เลือกจ่ายย้อนกลับมาให้กับ ปาโบล ซาบาเลต้า วอลเล่ย์ด้วยขวาตรงเส้นกรอบเขตโทษ ทิศทางพุ่งกรอบ แต่ แกรี่ เคฮิลล์ ยังใช้หัวขวางได้ทัน

     จากนั้นไม่ถึงนาที แมนฯซิตี้ รับใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ โคโล่ ตูเร่ ไปเตะฟาวส์ใส่ ฆวน มาต้า ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ จึงควักแจกอีกคน

     นาทีที่41 ทีมเรือใบ ได้บุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วมีโอกาสได้ส่องไกลจาก แจ็ค ร็อดเวลล์ บอลกำลังพุ่งเสียบใต้คาน แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังบินปัดทิ้งไปได้

      ช่วงท้ายครึ่งแรก ปาโบล ซาบาเลต้า ไปเสียบสไลด์ใส่ แอชลี่ย์ โคล อีกจึงไม่รอดรับใบเหลืองเพิ่มไปอีก ก่อนทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก จึงเสมอกันไปแบบสกอร์สะอาด 0-0

      เริ่มครึ่งหลังมาสองนาที แมนฯซิตี้ ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ดาบิด ซิลบา เปิดบอลจากริมสนามฝั่งซ้ายให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ลอยตัววอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้าย แต่เหยียดขายิงมากไปหน่อย จึงบังคับบอลเข้ากรอบยาก

คาร์รอส เตเวช จาก แมนฯซิตี้

        นาทีที่50 แฟน เชลซี ได้เฮกันลั่น เมื่อมีโอกาสได้ลุ้นประตู เมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วางบอลยาวให้ เดมบา บา วิ่งมาเอาชนะ โคโล่ ตูเร่ ก่อนไปเกี่ยวกับ โจ ฮาร์ท ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ ชี้เป็นลูกจุดโทษให้กับ ทีมเยือนทันที

         นาทีที่56 แมนฯซิตี้ พลาดโอกาสได้ประตูอีกรอบ เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ แทงบอลทะลุช่องให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดไปชิพบอลข้าม ปีเตอร์ เช็ก แต่บอลแรงไปหน่อย จึงไปตกบอลเพดานตาข่ายแทน

        แต่แล้วในนาทีที่63 สาวกเรือใบก็ได้เฮกันลั่น เมื่อ ดาบิด ซิลบา ได้บอลตรงริมเส้นหลังประตู ก่อนจ่ายคืนหลังให้ ยาย่า ตูเร่ ที่ยืนอยู่บนเส้นกรอบประตู ดึงบอลหลบ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ จอห์น โอบี มิเกล ก่อน ยิงผ่าน แกรี่ เคฮิลล์ ที่พยายามมาบล็อคขวาง บอลเสียบโคนเสาสอง ไปอย่างสวย สุดปัญญาที่ เช็ก จะเซฟได้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0

      นาทีที่ 85 แมนฯซิตี้ ได้ประตูเพิ่มอีกจนได้ เมื่อ ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลให้ คาร์ลอส เตเวซ ได้โอกาสสับไกยิงจากตรงบริเวณหัวกะโหลกเขตโทษ บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบสามเหลี่ยมไปอย่างงามหยด ให้ แมนฯซิตี้ นำห่าง 2-0

แมนฯ ซิตี้ 2-0 เชลซี
        ก่อนช่วงเวลาที่ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา แมนฯซิตี้ จึงเปิดบ้าน เอาชนะ เชลซี ไป 2-0 เก็บสามคะแนนล้ำค่า พร้อมกับไล่จ่าฝูง แมนฯยูฯ มา12แต้มเหมือนเดิม

"หืดขึ้นคอ" เชลซีตีเสมอ 1-1 รวม 2-1 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                          22 กุมภาพันธ์ 2556

     เอแดน อาซาร์ ซัดประตูงานหยดช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดถิ่นไล่ตามเสมอ สปาร์ต้า ปราก สุดมันส์ 1-1 รวมผลสองนัด เชลซี กินบุญเก่าผ่านเข้ารอบด้วยผลรวม 2-1 ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

       เริ่มเกมขึ้นมา 5 นาที เชลซี พลาดโอกาสทองก่อน เมื่อ วิคเตอร์ โมเสส ผ่านบอลจากด้านขวาให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส แปด้วยขวาเหน่งๆ ในกรอบโทษถากเสาไกลออกไป

เชลซี - สปาร์ต้า ปราก

        ตอร์เรส พลาสโอกาสงามๆ ไปอีกครั้งในนาทีที่ 11 หลังจาก มาต้า ครอสบอลจากด้านขวามาให้ แต่หัวหอกชาวสเปนวอลเล่ย์ระยะ 5 หลาข้ามคาน

       จนมาถึงนาทีที่ 17 สปาร์ต้า ปราก กลับขึ้นนำก่อน มาเตยอฟสกี้ เล่นฟรีคิกเร็วไปให้ วาชลาฟ คาดเลช ในกรอบโทษด้านซ้ายล้มตัวเกี่ยวบอลจน เคฮิลล์ เสียท่า ก่อนถวายพานให้ ดาวิด ลาฟาต้า แปด้วยขวาเน้นๆ ระยะ 8 หลาเสียบตาข่าย ขึ้นนํ้า 1-0 ทำให้สกอร์รวมกลับมาเท่ากันแล้ว

เชลซี - สปาร์ต้า ปราก

       หลังจากนั้น เชลซี กลับมาครองบอลบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 39 รามิเรส ตักบอลให้ ฆวน มาต้า เกี่ยวติดแล้วเดาะลูกหลังเข้าไปวอลเล่ย์เท้าซ้ายอย่างเหนือชั้น แต่ โทมัส วาชลิค เซฟข้ามคานได้หวุดหวิด

       ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก จอห์น โอบี มิเกล ครอสบอลจากด้านขวาให้ ตอร์เรส พุ่งโหม่งระยะ 8 หลาข้ามคานออกไปอีก จบครึ่งแรก ทีมเยือนนำ 1-0

        กลับมาเล่นครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที เชลซี น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ ออสการ์ ลุยขึ้นมาแล้วผ่านให้ รามิเรส ตะบันจากระยะ 15 หลาแฉลบ โฮเล็ค ไปชนเสา

        สิงห์บลูส์ พลาดโอกาสอีกหนในนาทีที่ 59 มาต้า เปิดฟรีคิกไปให้ จอห์น เทอร์รี่ วอลเล่ย์จากระยะ 12 หลา แต่ วาชลิค ป้องกันเอาไว้ได้อีก

        นาทีที่ 66 เชลซี ต้องส่ง เอแดน อาซาร์ ลงแทน ออสการ์ แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้

เชลซี - สปาร์ต้า ปราก

   ล่วงเลยมาถึงช่วงท้ายเกมทำท่าว่าจะต้องต่อเวลาพิเศษออกไปแต่แล้ว สิงห์บูลส์ได้เฮลั่นสนั่นสังเวียน นาทีที่ 92 เอแดน อาซาร์ รับบทฮีโร่กระชากบอลหลบแข้ง สปาร์ต้า ปราก สองคน เข้าไปกดด้วยเท้ายซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงามจบเกม เชลซี ไล่ยิงเสมอ สปาร์ต้า ปราก 1-1 รวมผลสอง เชลซี เจ้ารอบด้วยผลรวม 2-1

"สิงห์บูล" ส่อ จ้องล่าตัว เดเคอา ซัมเมอร์นี้!!!

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                           21 กุมภาพันธ์ 2556

ดาบิด เค เดอา จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

     สื่อแดนกระทิงดุ ประโคมข่าว เชลซี เตรียมแผนสร้างความฮือฮากับการเดินเครื่องล่าตัว ดาบิด เด เคอา นายด่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาเฝ้าเสาในช่วงซัมเมอร์ หากท้ายที่สุดเงื่อนไขปล่อย ติโบต์ กูร์กตัวส์ โกลดาวรุ่ง ให้ย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด แบบถาวร เพื่อแลกตัวกับ ราดาเมล ฟัลเกา ศูนย์หน้าชาวโคลอมเบีย สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี


     "อาส" หนังสือพิมพ์ชั้นนำของประเทศสเปน รายงานข่าวเมื่อวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า เชลซี ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเตรียมสร้างความประหลาดใจด้วยการยื่นข้อเสนอขอซื้อ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรคู่ปรับร่วมลีกแดนผู้ดี เข้ามาเป็นนักเตะใหม่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่วงซัมเมอร์นี้

เจทีเผย.. อยากให้แลมพาร์ดอยู่ต่อ!!

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                         19 กุมภาพันธ์ 2556

         จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยืนยันอยากเห็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก๋า อยู่ค้าแข้งในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปจนแขวนสตั๊ด เพราะแค่นึกภาพ "แลมพ์ส" เล่นให้ทีมอื่นก็รู้สึกจี๊ดหัวใจแล้ว และเชื่อมั่นในตัว แฟร้งค์  แลมพาร์ด ถึงแม้จะอายุจะ 34 ปีแล้ว แต่ทักษะและความสามารถช่วยเหลือทีมได้อีกเยอะ

จอห์น เทอร์รี้ และ แฟร้ง แลมพาร์ด กำลังหลักของทีม เชลซี

        จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม เชลซี ออกมาแสดงความหวังสุดท้ายว่าจะได้เห็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางมากประสบการณ์ ค้าแข้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปในฤดูกาลหน้า หลังจากกำลังจะหมดสัญญาในอีกไม่กี่เดือนนี้ และไม่ได้รับข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่จากสโมสร

        อีกทั้งยังกล่าวว่า "แฟร้งค์ ยังทำอะไรได้อีกมาก เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนในสโมสร เขาเล่นได้อีกหลายปี และเราทุกคนหวังว่าหลายปีนั้นจะเกิดขึ้นที่เชลซี ผมไม่สนุกเลยแค่นึกภาพเขาเล่นให้สโมสรอื่น ถึงแม้เขาจะอายุเท่านี้ แต่เขาจะยังเล่นได้ยอดเยี่ยมไปอีกนาน"

         ปัจจุบัน แฟร้งค์ แลมพาร์ด มีอายุ 34 ปี อยู่กับ เชลซี มาแล้ว 12 ปี สามารถทำประตูจาการเล่นทั้งหมด 199 ประตู ซึ่งใครต่อหลายคนกล่าวว่า เพราะเล่นหลายเกมส์จึงทำประตูได้มาก แต่ความจริงแล้วผลผลิตนี้ได้จากการฝึกซ้อมอย่างหนัก จึงสามารถช่วยให้ทีมมีชัยมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

สิงห์ถล่มยับ!! นัดรีเพลย์เบรนท์ฟอร์ด 4-0

ผลบอล:กระแส:เชลซี                                                                           18 กุมภาพันธ์ 2556

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ไม่ยอมผิดพลาดครั้งสอง เปิดบ้านไล่ยำ เบรนท์ฟอร์ด ทีมจากลีกวัน ไปแบบไม่ยาก 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปเยือน มิดเดิลสโบรช์ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพต่อไป ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดแข่งใหม่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

เชลซี 4-0 เบรนท์ฟอร์ด

         สิงโตน้ำเงินคราม ลงเตะนัดรีเพลย์โดยใช้ชุดใหญ่ ดาวิด ลุยซ์ กลับมายืนกองกลางตัวรับ, จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม, แอชลี่ย์ โคล, เดมบา บา, วิคเตอร์ โมเสส และ ออสการ์ ก็กลับมาเป็นตัวจริง

      ทางฝั่ง เบรนท์ฟอร์ด ทีมจากลีกวัน จัดทัพชุดใหญ่ลงเล่นโดยเน้นที่แดนกลาง มาร์เซลโล่ ทร็อตต้า กับ ตูมานี่ เดียกูราก้า กลับคืนตัวจริงทั้งคู่ ส่วนกองหน้าตัวเก่ง แฮร์รี่ ฟอร์เรสเตอร์ พักเป็นสำรอง

         ช่วงต้นเกม ทีมเยือนบุกสู้ได้ดี นาทีที่ 9 อดัม ฟอร์ชอว์ มีโอกาสยิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงหลุดเสาสองออกไป

         หลังจากนั้น เจ้าถิ่นเริ่มกลับมาครองบอลบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 11 จากลูกเตะมุม บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โหม่งย้อยๆ ข้าม เดมบา บา หลุดเสาไกลออกไปด้วย

         นาทีที่ 18 เป็นโอกาสทองครั้งแรกของ เชลซี เมื่อ วิคเตอร์ โมเสส หลุดไปสุดเส้นหลังฝั่งขวา ผ่านเข้ากลาง แฟร้งค์ แลมพาร์ด แปด้วยขวาผิดดื้อๆ บอลยังเข้าทาง ออสการ์ ยิงด้วยซ้ายเหน่งๆ แฉลบข้ามคานอีก

         นาทีที่ 40 ฟอร์ชอว์ แตะบอลหนี ดาวิด ลุยซ์ แล้วโดนรวบล้ม บอลเข้าทาง ทร็อตต้า หลุดเข้าเขตโทษจะส่องอยู่แล้ว แต่ผู้ตัดสินดันเป่าเป็นฟรีคิก ไม่ยอมให้เป็นลูกได้เปรียบ ซึ่ง ฟอร์ชอว์ ก็ปั่นฟรีคิกติดกำแพง

         เกมในครึ่งแรก แลมพาร์ด ทำอะไรผิดพลาดไปหมด นาทีที่ 44 อิวาโนวิช ผ่านจากด้านขวาให้มิดฟิลด์ตัวเก๋าแปด้วยขวาคนเดียวระยะ 10 หลา แต่ดันยิงโดนไม่เต็มเท้า บอลหลุดเสาเฉย จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0

เชลซี 4-0 เบรนท์ฟอร์ด

         ครึ่งหลังนาทีที่ 55 เชลซี มายิงขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากบอลยาวของ ปีเตอร์ เช็ก ไปถึง เดมบา บา ขึ้นโหม่งกับกองหลังทีมเยือนไปเข้าทาง ฆวน มาต้า จับแล้วตะบันด้วยซ้ายจากระยะ 22 หลาเสียบมุม

         พอเสียประตู เบรนท์ฟอร์ด ต้องรีบแก้เกมส่ง แฮร์รี่ ฟอร์เรสเตอร์ ลงแทน มาร์เซลโล่ ทร็อตต้า ในนาทีที่ 56 เชลซี ก็ส่ง เอแดน อาซาร์ ลงแทน วิคเตอร์ โมเสส ในนาทีที่ 65

         จากนั้น เจ้าบ้านก็มายิงเพิ่ม 2-0 ในนาทีที่ 68 อาซาร์ ทำเกมทันที ไหลบอลให้ อิวาโนวิช เติมขึ้นทางขวาผ่านเรียดเข้ากลาง ออสการ์ ยิงไขว้เท้าขวาบอลไม่แรง แต่ผู้รักษาประตูกับกองหลังตัวคุมเส้นก็พลาดกันหมด

         3 นาทีต่อมา สิงโตน้ำเงินคราม จัดการยิงฝัง 3-0 ฆวน มาต้า หลุดขึ้นไปทางกราบซ้าย มีพื้นที่มีเวลาลากเข้าเขตโทษแล้วบรรจงชิพให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แก้ตัวสำเร็จ แปด้วยขวาเน้นๆ ระยะ 8 หลาไม่เหลือ

จอห์น เทอรร์รี่ กัปตันทีม เชลซี

         เชลซี มายิงปิดท้าย 4-0 ในนาทีที่ 81 ออสการ์ โยนลึกไปเสาไกลให้ จอห์น เทอร์รี่ ที่เติมขึ้นมาเล่นเตะมุมต่อเนื่อง โหม่งมุมแคบผ่าน มัวร์ เข้าไป

         จบเกม เชลซี ถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปเยือน มิดเดิลสโบรช์ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์

สิงห์บลูเดือด!! ราฟา ด่า เทอร์รี้ เละ หลังพ่ายนิวฯ

ผลบอล:กระแสข่าว:เชลซี                                                                    17 กุมภาพันธ์ 2556

"สิงห์บลู" เชลซี สุดร้อนระอุ เมื่อ "ราฟาเอล เบนิเตซ" สุดฉุน และตำหนิ "จอห์น เทอร์รี" อย่างรุนแรง หลังเกมบุกพ่าย นิวคาสเซิล 2-3 โดยโทษปราการหลังกัปตันทีมว่าเป็นต้นเหตุให้ทีมต้องเสียสองประตูแรก ชนิดที่เรียกว่าเพื่อนร่วมทีมอึ้งไปตามๆ กัน 

ราฟาเอล เบนิเตช VS จอห์น เทอร์รี่

รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.พ. แฉข่าวถึงเรื่องการไม่กินเส้นกันระหว่าง ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือจอมแท็กติก ทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และจอห์น เทอร์รี แนวรับกัปตันทีมว่า ทั้งคู่ได้โต้เถียงกันอย่างรุนแรงภายในห้องแต่งตัว หลังเกมบุกแพ้ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล 2-3 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา 

"เบนิเตซ โทษ เทอร์รี กับการเสียสองประตูแรก ทั้งจากจังหวะปล่อยให้ โจนาส กูเตียร์เรซ ได้โหม่งประตูแรก และจังหวะเข้าบอลพรวดในลูกที่สอง" 

"ผู้จัดการทีมโกรธมากหลังจากที่ต้องแพ้ในนาทีสุดท้าย และแสดงชัดเจนว่า เขาไม่พอใจกับฟอร์มการเล่นของ เทอร์รี เขาเชื่อว่า จอห์น ยังไม่ฟิตพอ หลังจากเจ็บและร้างสนามไปนานถึง 3 เดือน"

"เจทีเองก็ไม่พอใจที่ถูกตำหนิเช่นกัน และเขาโต้เถียงกลับไป ต่อหน้านักเตะทุกคนภายในห้องแต่งตัว มันทำให้ทุกคนอึ้งมากกับวิธีที่ เบนิเตซ เลือกตำหนิผู้เล่นเฉพาะเจาะจงแค่ เทอร์รี แบบนี้ ซึ่งไม่ใช่วิธีที่เขาทำบ่อยนักที่ เชลซี " แหล่งข่าวเผย

เจที โดนแขวะ!! ราฟาเล่งเหตุดองเป็นตัวสำรองนาน

ผลบอล:กระแสข่าว:เชลซี

    ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ เชลซี อาจมีปัญหากับ จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม หลังจากยืนยันว่า "เจที" ยังมีปัญหาบาดเจ็บทำให้ยังไม่สามารถช่วยทีมในการบุกไปเชือด สปาร์ต้า ปราก ทีมดังลีกสาธารณรัฐเช็ก 1-0 ในฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา

เบนิเตช ผู้จัดการทีมชั่วคราว เชลซี

      เบนิเตซ ยังคงวาง เทอร์รี่ บนม้านั่งสำรองอีกครั้งในเกมที่ไปเยือน สปาร์ต้า ปราก โดยอ้างว่าต้องจัดการเรื่องปัญหาบาดเจ็บหัวเข่าของเขาให้เรียบร้อยดีเสียก่อนแล้วค่อยกลับมาลงสนามอีกครั้ง ทั้งที่ตัวนักเตะยืนยันว่าฟิตสมบูรณ์พร้อมคัมแบ็กแล้วก็ตาม
     
    เบนิเตซ กล่าวหลังจบเกมว่า "อาการของเขาทรุดไปอีกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วเขาก็กลับมาสมบูรณ์อีกครั้งโดยที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆในการฝึกซ้อมครั้งต่อมา  แต่เราต้องจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างรอบคอบ เขาต้องฝึกซ้อมร่วมกับทีมให้มากกว่านี้แล้วเขาก็จะมีโอกาสเป็นตัวเลือกมากขึ้น"

จอหน์ เทอร์รี่

             ทั้งนี้ เทอร์รี่ บาดเจ็บหัวเข่าตั้งแต่เกมกับ ลิเวอร์พูล เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว โดยดูเหมือนว่า จะเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรง แต่ผลสแกนระบุว่า ไม่มีความเสียหายที่เส้นเอ็นหัวเข่า ทำให้เจ้าตัวตั้งเป้าคัมแบ็กกลับไปลงสนามภายในระยะเวลาไม่นาน แต่กลับกลายเป็นว่า ได้ลงเป็นตัวจริงเพียงแค่ 2 เกมตั้งแต่นั้น ซึ่งมีการคาดการว่าเขาจะได้ลงเล่นในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ กับ เบรนท์ฟอร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 17 ก.พ. นี้